อาการปวดท้องด้านซ้าย ถือเป็นความเจ็บป่วยที่เกิดขึ้นและมีสาเหตุมาจากหลายปัจจัย ที่จะส่งผลต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน ซึ่งหลายๆ คนอาจจะมองข้ามและละเลยที่จะรักษา เพราะคิดว่าเป็นเรื่องที่ไม่รุนแรง แต่อย่าลืมว่าในช่องท้องของเราประกอบไปด้วยอวัยวะต่างๆ มากมาย ที่ทำหน้าที่แตกต่างกัน ถ้าปวดในจุดใดจุดหนึ่ง แสดงว่าอวัยวะกำลังทำงานผิดปกติ แล้วจะก่อให้เกิดผลเสียต่อร่างกายได้ สำหรับใครที่กำลัง ดูดไขมัน มีอาการปวดท้องด้านซ้าย ควรเช็คด่วน ว่ามีสาเหตุมาจากอะไร เพื่อจะได้รู้วิธีป้องกันได้ทันท่วงที
1.หัวใจขาดเลือด
หัวใจขาดเลือดเป็นโรคที่เกิดขึ้นจากหลอดเลือดหัวใจเกิดการตีบตัน จึงทำให้เลือดไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจน้อยลง ซึ่งถือเป็นภาวะที่อันตรายถึงแก่ชีวิตเลยก็ว่าได้ เพราะถ้ามีอาการรุนแรงอาจจะทำให้กล้ามเนื้อหัวใจตายได้ โดยสาเหตุของโรคนี้ก็เกิดจากการแข็งตัวของหลอดเลือด อาจจะมีไขมันเข้าไปอุดตัน รวมทั้งมีอาการแน่นหน้าอก รู้สึกอึดอัดบริเวณหน้าอก หายใจไม่ค่อยสะดวก และคลื่นไส้ อาเจียนร่วมด้วย
2.กรดไหลย้อน
ถือเป็นโรคที่เจอบ่อยสำหรับหลายๆ คน ซึ่งกรดไหลย้อนจะมาหลังรับประทานอาหารเสร็จ เป็นภาวะที่น้ำย่อยของกระเพาะอาหารไหลกลับขึ้นไปสู่หลอดอาหาร ทุกคนอาจจะคิดว่าเป็นเรื่องเล็ก แต่จริงๆ แล้ว อาจจะถึงขั้นรุนแรงและทำให้ปอดอักเสบก็ได้ ซึ่งอาการของกรดไหลย้อนจะรู้สึกแสบร้อนกลางอก ท้องอืด แน่นอนท้องและอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ทุกคนไม่ควรละเลยเด็ดขาด
3.โรคลำไส้แปรปรวน
โรคนี้เกิดจากลำไส้ทำงานผิดปกติ จึงทำให้คนที่เป็นรู้สึกปวดท้อง อึดอัดแน่นท้อง มีการถ่ายที่ผิดปกติ หรือมีอาการลำไส้เกร็งตัวผิดปกติ ส่วนมากคนที่เป็นโรคลำไส้แปรปรวนจะเกิดจากการได้รับเชื้อแบคทีเรีย อาหารเป็นพิษ หรือเกิดจากความเครียดก็ทำให้เกิดโรคลำไส้แปรปรวนได้เหมือนกัน ดังนั้นทางที่ดีควรทำการรักษา และดูแลเรื่องอาหารการกินให้มากขึ้น
4.ตับอ่อนอักเสบ
ตับอ่อนถือเป็นอีกอวัยวะสำคัญที่ทุกคนไม่ควรละเลย ตับของเรานั้นจะช่วยทำหน้าที่ย่อยอาหารและควบคุมน้ำตาลในเลือดไม่ให้มากเกินไป ซึ่งตับอ่อนอักเสบจะไม่ค่อยแสดงอาการชัดสักเท่าไหร่ ต้องคอยสังเกตให้ดีๆ ซึ่งอาการของตับอ่อนอักเสบนั้นจะปวดกลางหน้าท้องอย่างรุนแรง จนตั้งตัวไม่ทัน บางรายอาจจะปวด 10 นาทีจนถึงเป็นชั่วโมง และจะมีอาการปวดร้าวลงหลัง มีไข้ ท้องร่วงร่วมด้วย
5.ม้ามโต
อาการม้ามโตถ้าดูจากภายนอกไม่สามารถสังเกตได้ แต่ถ้าเป็นคนผอมอาจจะมองได้ชัดกว่า ซึ่งม้ามของเรานั้นจะทำหน้าที่กำจัดเชื้อโรคสิ่งแปลกปลอมที่เข้ามาสู่ร่างกาย รวมถึงป้องกันการติดเชื้อภายในร่างกายอีกด้วย โดยอาการม้ามโตต้องระวังเป็นอย่างมาก เพราะเป็นโรคที่ต้องได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์โดยตรง แต่ก็พอสังเกตอาการได้ คือ มีการปวดแน่นท้องข้างซ้าย ไปถึงหัวไหล่ รวมทั้งการกินอาหารที่แม้กินเล็กน้อยก็ทำให้อิ่ม
6.แก๊สในกระเพาะอาหาร
เชื่อว่าอาการนี้หลายๆ คนคงเป็นกัน ซึ่งแก๊สในกระเพาะอาหาร เกิดจากที่อาหารไม่ย่อย เพราะกินอาหารเร็วไปและไม่สามารถดูดซึมได้ ซึ่งอาการของคนที่มีแก๊สอยู่ในท้องจะเรอ หรือผายลมบ่อยๆ ท้องอืด และรู้สึกอึดอัดท้องแน่นท้องได้
7.โรคไส้เลื่อน
โรคไส้เลื่อนถือเป็นปัญหาหนักใจของผู้ชายหลายๆ คน เพราะส่วนมากจะเกิดกับผู้ชายมากกว่าผู้หญิง ซึ่งโรคไส้เลื่อนนั้นไม่ได้เป็นแค่ตรงขาหนีบเท่านั้น ยังรวมไปถึง ไส้เลื่อนบริเวณสะดือ หรือไส้เลื่อนบริเวณกะบังลม ซึ่งแต่ละจุดก็จะมีอาการที่แตกต่างกันออกไป ถ้าเป็นไส้เลื่อนกะบังลม ก็จะมีอาการเหมือนกรดไหลย้อน ปวดท้อง แน่นท้อง ไม่อุจจาระ โดยต้องทำการรักษาทันที
8.ปอดบวม
ถือเป็นโรคที่ต้องระวังเป็นอย่างมาก ซึ่งปอดบวมนั้น เป็นอาการปอดติดเชื้อ ทำให้ผู้ที่เป็น มีอาการมีไข้ แน่นหน้าอก หรือเหนื่อยง่ายผิดปกติ ซึ่งโรคนี้สามารถเป็นได้ตั้งแต่เด็กถึงผู้ใหญ่กันเลย อาการของผู้ใหญ่และเด็กจะแตกต่างกันออกไปคือ ของผู้ใหญ่จะรู้สึกซึม มีไข้ แต่ในเด็กนั้นจะมีอาการปวดท้อง ท้องอืด ซึมร่วมอยู่ด้วย บางรายถึงขั้นรุนแรงจนชักเลยทีเดียว
การปวดท้องข้างซ้าย เชื่อว่าหลายๆ คนคงทราบกันไปแล้วว่ามีสาเหตุมาจากอะไร ซึ่งแต่ละโรคนั้นถือเป็นโรคที่อันตรายกับทุกคน ไม่ควรนิ่งนอนใจ เพราะจะทำให้ได้รับการรักษาช้าเกินไป ดังนั้นสำหรับใครที่มีอาการปวดท้องข้างซ้ายควรรีบพบแพทย์ด่วนทันที